วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

15 วิธีง่ายๆ หยุดโลกร้อน

15 วิธีง่ายๆหยุดโลกร้อน
         1. วิธีเซฟค่าไฟในบ้านที่ฮิตฮอตที่สุดคือ เปลี่ยนหลอดไฟใหม่เป็นแบบประหยัด (หลอดตะเกียบ) ประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 3 – 5 เท่า แล้วยังใช้งานได้นานกว่าอีกต่างหาก
         2. หมั่นทำความสะอาดหลอดไฟที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ 
จะช่วยเพิ่มแสงสว่างโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น และควรทำอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปีนะคะ 

         3. เปิดหน้าต่างรับลมแทนการเปิดแอร์
วิธีนี้ง่ายและคนไทยคุ้นเคยกันดีค่ะ แถมลมธรรมชาติยังปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศด้วยนะ (จริงไหมต้องสังเกตค่ะ) 
         4. ปิดคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ด้วยปุ่ม Off เท่านั้นที่เราต้องการ เพราะปุ่ม Stand by Power จะกินไฟในบ้านแบบไม่รู้ตัว 75 % (โอ้โห) 

         5. ตู้เย็นเปิดแล้วต้องปิดให้สนิท 
อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย และอย่านำของร้อนเข้าแช่ในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานเพิ่มขึ้น และกินไฟมากขึ้นตามไปด้วย 
         6. จากที่เคยซักผ้าทีละน้อยๆ และซักบ่อย เปลี่ยนมารวบรวมให้ได้กองโตพอสมควรก่อนค่อยซักทีเดียว อ้อ! แล้วไม่ต้องอบผ้าให้กินไฟและทำลายสิ่งแวดล้อมหรอกค่ะ บ้านเราแดดแรงดีอยู่แล้ว 


         7. ถึงจะเป็นยุคแห่งเทคโนโลยี แต่การจัดบ้านใหม่ให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติและทิศทางลม ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีไฮเทคตลอดเวลา ช่วยกันปลูกต้นไม้ในบ้านก็ช่วยให้ร่มรื่นคลายร้อนไปได้มากแล้ว เรียกว่าการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จะช่วยเซฟพลังงานในบ้านได้ถึง 40 % เชียวค่ะ
         8. ปฏิเสธถุงพลาสติก 
เพราะถุงพลาสติกแต่ละใบต้องใช้เวลาถึงพันปีกว่าจะย่อยสลายหมดไปจากโลก แล้วหันมาพกถุงผ้าส่วนตั๊ว..... ส่วนตัว ไปช็อปปิ้งแทนจะดีกว่า
         9. งานเลี้ยงสังสรรค์ หรือปิกนิกนอกบ้านหลีกเลี่ยงไม่ใช้จานและแก้วน้ำกระดาษเพราะสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิต 

         10. จ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต นอกจากจะประหยัดเวลากันเห็นๆ ยังช่วยกู้วิกฤติโลกร้อนได้อย่างมโหฬาร เพราะลดการตัดต้นไม้ไงค่ะ 
         11. ตอนล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวดและถูสบู่ตอนอาบน้ำ ไม่ควรเปิดให้น้ำไหลตลอดเวลา เพราะจะสูญเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ นาทีนึงก็หลายลิตรไม่เบานะ 
         12. ใช้สบู่เหลวแทนสบู่ก้อนเวลาล้างมือ 
เพราะสบู่ก้อนจะใช้เวลาล้างนานกว่า เปลืองน้ำกว่าแต่สบู่เหลวก็ต้องเป็นแบบที่ไม่เข้มข้นนะคะ เพราะจะได้ใช้น้ำน้อยกว่าด้วย
         13. ยุคนี้โลกเรา World Wide มีทั้งโทรศัพท์ อีเมล์ อินเตอร์เน็ต
 จะติดต่อกันทั้งที ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้แทนการเดินทางด้วยตัวเอง ลดการใช้น้ำมัน และประหยัดเวลาไปได้เยอะค่ะ 

         14. Cae Pool ไปไหนมาไหนที่หมายเดียวกัน 
หรือทางผ่านใกล้เคียงกันก็จัดก๊วนรวมกลุ่มใช้รถคันเดียวกัน ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษด้วยนะจ๊ะ 
         15. ไปซื้อของหรือไปธุระใกล้บ้านใกล้ออฟฟิศ 
ลองหันมาเดินหรือใช้จักรยานแทนบ้างก็ประหยัดพลังงาน และออกกำลังกายไปในตัว

ที่มา : Modernmom Vol. 12 No. 142 August 2007

ชวนชะลออัลไซเมอร์ด้วยอาหารเช้า

ชวนชะลออัลไซเมอร์ ! ด้วยอาหารเช้า
เผยแพร่เมื่อวันที่ : 19 ธันวาคม 2556
ชวนชะลออัลไซเมอร์ ! ด้วยอาหารเช้า
 

             ใครไม่อยากสมองเสื่อม หรือหลงลืมอะไรได้ง่าย ห้ามขาดอาหารเช้า ไม่ว่าจะมื้อเล็ก มื้อใหญ่ หรือมื้อง่ายๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์ได้อย่างดี

           สาเหตุที่อาหารเช้ามีส่วนช่วยลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อม เนื่องจากการที่เราไม่กินอาหารเช้า จะทำให้ร่างกายเราขาดอาหารยาวนานมากกว่า 12-15 ชั่วโมง เพราะระหว่างมื้อเย็นจนมาถึงมื้อเช้าของอีกวัน รวมเวลานอนหลับ ร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารยาวนานมาก ดังนั้นหากเราไม่กินอาหารเช้าผลที่ตามมาคือ ทำให้เราขาดน้ำตาลในเลือด หรือน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งน้ำตาลในเลือดนี้เอง ที่เป็นอาหารสำคัญต่อการทำงานของสมองของเราทุกคน เมื่อน้ำตาลไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง เซลล์สมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับความคิดความจำก็จะได้รับน้ำตาลไปบำรุงน้อยตามลงไปด้วย            สาเหตุที่อาหารเช้ามีส่วนช่วยลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อม เนื่องจากการที่เราไม่กินอาหารเช้า จะทำให้ร่างกายเราขาดอาหารยาวนานมากกว่า 12-15 ชั่วโมง เพราะระหว่างมื้อเย็นจนมาถึงมื้อเช้าของอีกวัน รวมเวลานอนหลับ ร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารยาวนานมาก ดังนั้นหากเราไม่กินอาหารเช้าผลที่ตามมาคือ ทำให้เราขาดน้ำตาลในเลือด หรือน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งน้ำตาลในเลือดนี้เอง ที่เป็นอาหารสำคัญต่อการทำงานของสมองของเราทุกคน เมื่อน้ำตาลไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง เซลล์สมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับความคิดความจำก็จะได้รับน้ำตาลไปบำรุงน้อยตามลงไปด้วย 






           และนี่เองที่เป็นสาเหตุทำให้สมองขาดน้ำตาล ขาดความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพราะขนาดร่างกายเรายังต้องการน้ำตาลมาหล่อเลี้ยงให้เพียงพอ สมองก็ต้องการไม่ต่างกัน นอกจากนี้ การกินอาหารเช้ายังทำให้ร่างกายเราสร้างฮอร์โมน “เซโรโทนิน” ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างสมองให้ทำงานรวดเร็ว ฉับไว คิดอะไรได้แล่นฉิว ไม่เฉื่อยชา หรือเรียกง่ายๆ ว่าช่วยให้สมองไว โดยข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาแต่ไม่ใช่แค่นี้ เพราะอีกสาเหตุที่ทำให้คนไม่กินอาหารเช้า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้มากกว่า นั่นเป็นเพราะว่า คนที่ขาดอาหารเช้า ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ง่าย เมื่อเป็นโรคกระเพาะก็ทำให้ต้องกินยาประเภทที่มีส่วนประกอบของอลูมิเนียม เช่น ยาเคลือบกระเพาะต่างๆ ทำให้เกิดการสะสมอลูมิเนียมในร่างกาย ซึ่งมีแนวโน้มก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย
           เพราะฉะนั้นอาหารเช้า คืออาหารมื้อสำคัญสุด ที่ไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงร่งกายให้แข็งแรงสุขภาพดี เตรียมพร้อมต่อการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันให้มีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของสมอง ป้องกันความจำเสื่อม

ที่มา  :  http://www.phyathai.com